Tuesday, March 20, 2007

ศัพท์บัญญัติมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยปิด :
สถานที่ที่หนึ่ง เข้าก็ยาก ออกก็ยาก เป็นที่โปรดปรานของบิดามารดา เวลาออกมาแล้วได้กระดาษมาคนละแผ่น เรียกว่าใบปริญญา อาจมีความรู้แถมมาด้วยเล็กน้อย

มหาวิทยาลัยเปิด :
ตรงกันข้ามกับอันแรก เข้าง่าย แต่ออกยากกว่ามหาวิทยาลัยปิด ได้ใบปริญญามาเช่นกัน แต่คุณค่าต่ำกว่าอันแรกโดยใช้ค่านิยมเป็นตัวตัดสิน

ปริญญาบัตร :
เอาไว้ยืนยันการเลือกงานตามสาขาและระดับที่ร่ำเรียนมา ต่ำกว่านั้นไม่ได้ ห้าม…เสียศักดิ์ศรีหมด

คณะ :
หมวดหมู่ของวิชา เลือกเรียนได้ตามความถนัด สนใจ พอใจ คะแนนเอนท์ฯ และความพอใจของท่านบิดามารดา

บิดามารดา :
เรียกอีกอย่างว่าผู้ปกครอง มักบอกลูกตัวเองว่าให้เลือกเรียนตามความถนัด จะเอาแพทย์จุฬาฯ เภสัชมหิดล อักษรจุฬาฯ หรือนิติธรรมศาสตร์ก็ได้ เลือกเอานะลูก…

กิจกรรม :
เอาไว้ฝึกแบ่งเวลาและฝึกเข้าสังคม ควรเพลาๆ ลงเมื่อได้ F เกินสามตัวต่อปี

รับน้องใหม่ :
กิจกรรมหนึ่ง มักมีขึ้นช่วงก่อนมหาวิทยาลัยเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง เป็นการสร้างความสมัครสมานสามัคคีและความสนิทสนมให้แก่รุ่นน้องและรุ่นพี่ ถ้ามีหลังเปิดภาคเรียนเรียกว่าว้าก

ว้าก :
กิจกรรมตอนเย็นๆ ที่มีมาแต่โบราณกาล ปัจจุบันก็ยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่แยะ มักมีขึ้นช่วงเย็นๆ ถึงดึกๆ เป็นการทำให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะและเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพโดยใช้คำผรุสวาทและมีกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้มากมาย เด็กใหม่ทุกคนต้องเข้า และต้องแต่งชุดเหมือนกันหมด เข้าทุกวันไม่ว่าจะมีสอบย่อยหรือมีเรียนตอนเช้าวันรุ่งขึ้น …ไม่เข้าใช่มั๊ย…ประเดี๋ยวเถอะ…สิบชุดเล็ก…ยี่สิบเอ็ดชุดใหญ่…ปฏิบัติ!

ว้ากเกอร์ :
บุคคลกลุ่มหนึ่ง เสียงดี ไอเดียเยี่ยม แสดงละครเก่ง ทำให้รุ่นน้องสามัคคีกันเป็นงานอดิเรก ตอนที่อยู่ในระหว่างเทศกาลว้าก คนกลุ่มนี้จะไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ไร้ความร่าเริงไม่คุยกับเด็กปีหนึ่ง ทำหน้าตายได้อย่างเดียว

หลุด :
อาการที่ว้ากเกอร์ทำกิริยาอาการอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งอยู่นอกเหนือข้อห้ามข้างบน หรือผิดคิวระหว่างว้าก

เสรีภาพ :
สิ่งที่ไม่มีอยู่จริงในมหาวิทยาลัยที่เปิดกว้างทางความคิด คิดได้อย่างเดียว คิดเข้าไปเถอะ แต่อย่าทำ

เสมอภาค :
สิ่งที่ถูกอ้างว่ามีอยู่จริงในมหาวิทยาลัย แต่ถูกจำกัดด้วยคำว่า Seniority และ Instructor

ภราดรภาพ :
สิ่งที่อาจมีอยู่จริง แต่ยังไม่มีใครมองเห็นและนำมาใช้

เฟรชชี่ :
ผ้าขาว สดใส น่ารัก หน้าตาอ่อนใส ไร้เดียงสา ที่สำคัญต้องใส่รองเท้าสีขาว เป็นคำจำกัดความของเด็กที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ยังไม่แก่โลก และถูกชักจูงง่ายมาก บอกอะไรเชื่อหมด …หลอกง่ายดี…ชอบ

ประชุมเชียร์ :
โดยปกติมักจัดเวลากินข้าวเย็นถึงเวลานอน เรียกมาให้พร้อมหน้ากัน แล้วร้องเพลงเชียร์ มักอยู่คู่กับประเพณีว้าก

เพลงเชียร์ :
สิ่งปลุกใจเฟรชชี่ให้เกิดความรักพวกพ้อง รักรุ่นพี่ รักคณะตัวเอง คณะอื่นไม่เกี่ยว ไม่ดี ไม่ได้เรื่อง คณะเราดีที่สุด…อย่ามายุ่งนะ

นักศึกษา :
คนกลุ่มหนึ่ง มีหน้าที่เรียน เรียน และเรียน แต่มีบางส่วนที่ลืมตัว เผลอเอาเวลามาทำกิจกรรมจนไม่มีเวลาไปเรียน

รุ่นพี่ :
ปูชนียบุคคล ไหว้ได้ถ้าจำเป็น ต่างกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นิดเดียว คือเมื่อเวลาเดินผ่านแล้วไม่ทักทายอาจโดนข้อหาหนักได้

ชุดนักศึกษา :
นิยมแต่งเฉพาะช่วงสอบ

หอพักนักศึกษา :
แหล่งซ่องสุมกำลังอย่างดีของนักศึกษา มีครบทุกอย่างที่กฎของหอพักห้าม มักอยู่ไกลจากตึกเรียนไม่ต่ำกว่าหนึ่งกิโลเมตร

อาคารเรียน :
สถานที่ควรให้ความเคารพ ห้ามแต่งกายไม่สุภาพยกเว้นสายเดี่ยวหรือขาสั้น มักมีศาลอยู่ด้านหน้า ช่วงสอบจะมีพวงมาลัยหลากสีสัน และขนมต้มแดง ขนมต้มขาว

จักรยาน :
พาหนะยอดนิยมของนักศึกษา อาจอัพเกรดเป็นจักรยานยนต์ได้ถ้ากระเป๋าหนัก

รถยนต์ :
พาหนะของนักศึกษาบางกลุ่มที่บ้านอยู่ไกล แต่ไม่มีสตางค์จะเช่าหอพัก

เวลาเรียน :
กำหนดเวลาเข้าห้อง สายได้ไม่เกินที่อาจารย์กำหนด และอาจโดนแบน โดยการล็อคห้อง ไม่ให้เข้า

ก่อนสอบ :
เวลาที่มีเสียงบ่นงึมๆ ระงม บ้างก็ท่องสูตรเคมี บ้างก็บ่นว่าอ่านหนังสือไม่ทันแต่ไม่อยากอ่าน

สอบ :
เวลาตายของใครบางคน อิ อิ…

หลังสอบ :
เวลาที่ควรเปิดหนังสือวิชาที่เพิ่งสอบเสร็จไป มานั่งอ่านอย่างขะมักเขม้น

F : เกรดเกรดหนึ่ง
หนึ่งตัวมีค่าเท่ากับเงินค่าหน่วยกิตของวิชาที่ได้เกรดนั้น และเวลาที่เรียนไปทั้งเทอม

A : เกรดที่บางครั้งได้ไม่เท่ากัน
ในแต่ละปี ตามแต่ใจอาจารย์ บางครั้งคะแนนสูงกว่า B+ นิดเดียว

จบ :
คำพูดสั้นๆ ของอาจารย์ เมื่อเวลาที่เราเรียนครบตามหน่วยกิตที่กำหนด อาจเกินสี่ปีได้ในบางกรณี

เกียรตินิยม :
เหมือนกีฬาโอลิมปิก มีการชิงเหรียญทอง แถมแว่นตา และข้อความในประกาศเพิ่มอีกสองสามประโยค

กระเป๋าหลุยส์ฯ :
เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ไม่มีเงินจะซื้อกระเป๋าถูกๆ ใช้ บังเอิญมีแต่บัตรเครดิตน่ะฮ่ะ

No comments:

Post a Comment